การเทรดด้วยระบบ

FXTticksCollector - เครื่องมือสำหรับ MetaTrader 4 ที่คุณไม่ควรพลาด
MetaTrader4
FXTticksCollector - เครื่องมือสำหรับ MetaTrader 4 ที่คุณไม่ควรพลาด

สวัสดีครับเพื่อนๆ เทรดเดอร์ทุกคน! วันนี้เรามาพูดถึง FXTticksCollector กันดีกว่า เครื่องมือที่ช่วยเก็บข้อมูลทุกๆ tick ที่เข้ามาในโหมดเรียลไทม์และบันทึกลงในไฟล์ FXT ครับ โดยไฟล์ FXT ที่สร้างขึ้นจะมีสัญลักษณ์และช่วงเวลา (period) ที่ตรงกับกราฟที่เราใช้งานอยู่ ซึ่งทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลของเรามีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น วิธีการเริ่มต้นใช้งาน FXTticksCollector ก่อนอื่นให้ดาวน์โหลด FXTHeader จากส่วนของ Libraries ก่อนนะครับ ติดตั้ง FXTticksCollector ใน MetaTrader 4 ของคุณ เริ่มเก็บข้อมูลและวิเคราะห์กันได้เลย! เครื่องมือนี้เหมาะมากสำหรับใครที่ต้องการเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือพัฒนาระบบการเทรดของตัวเอง หวังว่า FXTticksCollector จะช่วยให้เพื่อนๆ เทรดเดอร์ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพในการตัดสินใจเทรดมากขึ้นนะครับ!

2006.07.22
CyberiaTrader: ระบบเทรดมืออาชีพสำหรับ MetaTrader 4
MetaTrader4
CyberiaTrader: ระบบเทรดมืออาชีพสำหรับ MetaTrader 4

สวัสดีครับเพื่อนๆ นักเทรดทุกคน! วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ CyberiaTrader ซึ่งเป็น Expert Advisor ที่ออกแบบมาเพื่อการเทรดสกุลเงินโดยเฉพาะครับผลการทดสอบของ CyberiaTrader นั้นน่าสนใจมาก โดยมันสามารถทำกำไรได้จากการเทรดในช่วงเวลา 1 นาที ด้วยสเปรดเพียงแค่ 2 จุดเท่านั้น แนะนำให้ใช้ในตลาดที่เคลื่อนไหวช้า แต่มีปริมาณการซื้อขายที่ดีนะครับเทคโนโลยีการเทรดที่ CyberiaTrader ได้พัฒนาขึ้นนั้นมีหลากหลาย เช่น:การทำงานกับสกุลเงินข้ามการคำนวณล็อตอัตโนมัติตามความเสี่ยงที่ตั้งไว้การเทรดหลายสกุลเงินพร้อมกันการค้นหาช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการจำลองการเทรดการเชื่อมโยงอัตโนมัติระหว่างค่าของ StopLoss กับความมั่นใจในตลาดโดย CyberiaTrader ยังมีเทคนิคการทำกำไรแบบ pipping และวิธีการค้นหาระดับ StopLoss ที่เหมาะสมอีกด้วยครับผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ CyberiaTrader อาจอยู่ในช่วง 100% ถึง 300% ต่อวัน โดยใช้การตั้งค่าที่แนะนำ แต่ขอเตือนว่าไม่ควรนำไปใช้ในบัญชีจริงในขณะนี้นะครับ หรือถ้าจะใช้งานจริง ควรใช้ในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวช้า และต้องรับผิดชอบความเสี่ยงด้วยตัวเองหากสนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่:อีเมล: krivoshey@cyberia.org.ruICQ: 249106432

2006.07.21
การใช้ EMA CROSS: EA สำหรับ MetaTrader 4 ที่คุณไม่ควรพลาด
MetaTrader4
การใช้ EMA CROSS: EA สำหรับ MetaTrader 4 ที่คุณไม่ควรพลาด

สวัสดีเพื่อนๆ นักเทรดทุกคน! วันนี้เรามาพูดถึง EMA CROSS ซึ่งเป็น Expert Advisor (EA) ที่ใช้สำหรับ MetaTrader 4 กันนะครับการใช้ EMA CROSS เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถช่วยให้เราตัดสินใจในการเทรดได้ง่ายขึ้น ด้วยการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาในตลาดอย่างมีประสิทธิภาพผลการทดสอบมาดูผลการทดสอบของ EA ตัวนี้กันดีกว่า:นี่คือกราฟที่แสดงผลการทำงานของ EA ในช่วงเวลาหนึ่งกราฟนี้แสดงให้เห็นถึงการตอบสนองของ EA ในตลาด ซึ่งสามารถช่วยเราในการตัดสินใจได้ดีขึ้นหากเพื่อนๆ สนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ EMA CROSS เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดได้เลยนะครับ!

2006.07.20
TicksInMySQL: ระบบ EA สำหรับ MetaTrader 4 ที่ช่วยจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
MetaTrader4
TicksInMySQL: ระบบ EA สำหรับ MetaTrader 4 ที่ช่วยจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สวัสดีครับเพื่อนเทรดเดอร์ทุกคน วันนี้เรามาพูดถึง TicksInMySQL ระบบ EA หรือ Expert Advisor ที่ช่วยให้เราสามารถบันทึกข้อมูล ticks ลงในฐานข้อมูล mySQL ได้โดยตรงทำไมต้องใช้ TicksInMySQL?การติดตามการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดฟอเร็กซ์นั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็บข้อมูล ticks ให้ครบถ้วนและแม่นยำ ซึ่ง TicksInMySQL ช่วยให้เราสามารถเก็บข้อมูลนี้ได้อย่างสะดวกสบายคุณสมบัติเด่นของ TicksInMySQLบันทึกข้อมูล ticks โดยอัตโนมัติจัดเก็บในฐานข้อมูล mySQL ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ต้องการการจัดการข้อมูลที่ดีขึ้น ลองพิจารณาใช้ TicksInMySQL ในการเทรดของคุณดูนะครับ

2006.07.20
นักเทรด Divergence - ระบบเทรดอัจฉริยะสำหรับ MetaTrader 4
MetaTrader4
นักเทรด Divergence - ระบบเทรดอัจฉริยะสำหรับ MetaTrader 4

แนะนำระบบเทรด Divergence สวัสดีครับเพื่อนๆ นักเทรดทุกคน! วันนี้เราจะมาพูดถึง ระบบเทรด Divergence ที่เป็นที่นิยมในหมู่นักเทรดบน MetaTrader 4 กันนะครับ ระบบนี้ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราเข้าใจทิศทางของตลาดได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเบี่ยงเบน (Divergence) ระหว่างราคาและตัวชี้วัดทางเทคนิคต่างๆ ทำไมถึงเลือกใช้ Divergence Trader? ระบบนี้มีข้อดีหลายอย่างที่ทำให้มันน่าสนใจสำหรับนักเทรด: วิเคราะห์ง่าย - ระบบนี้ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาพร้อมกับตัวชี้วัดได้อย่างรวดเร็ว ช่วยในการตัดสินใจ - สามารถช่วยในการตัดสินใจเข้าซื้อหรือขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานสะดวก - รองรับการใช้งานบน MetaTrader 4 ที่เป็นที่นิยมในหมู่นักเทรด สรุป หากคุณเป็นนักเทรดที่มองหาเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ตลาด Divergence Trader อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจครับ ลองนำไปใช้ดูนะครับ รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง!

2006.07.19
gpfTCPivotLimit: ระบบเทรดสุดเจ๋งสำหรับ MetaTrader 4
MetaTrader4
gpfTCPivotLimit: ระบบเทรดสุดเจ๋งสำหรับ MetaTrader 4

ระบบ gpfTCPivotLimit เป็นหนึ่งในระบบการเทรดที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ใน MetaTrader 4 ซึ่งเน้นการทำกำไรจากระดับ Pivot ในการเทรดในช่วงเวลาสั้น ๆ    วิธีการเทรด:ใช้กรอบเวลาเป็นรายชั่วโมง;หลังจากเวลาตี 0 ของวัน เราจะคำนวณระดับ Pivot, Resist1, Resist2, Resist3, Support1, Support2, Support3;เมื่อทดสอบระดับ Support (n) โดยใช้แท่งเทียนชั่วโมง (T-2) และแท่งเทียน (T-1) ปิดอยู่เหนือระดับนี้ เราจะทำการซื้อ และวางจุดหยุดขาดทุนที่ระดับ Support(n1) และทำกำไรที่ระดับ Resist(n); T คือเวลาของชั่วโมงปัจจุบัน;ใช้ระบบ Trailing เพื่อเลื่อนจุดหยุดขาดทุนไปที่จุดเบรกอีฟ;ในทางกลับกัน หากแท่งเทียนชั่วโมง (T-2) ทดสอบระดับ Resist(n) และแท่งเทียน (T-1) ปิดต่ำกว่าระดับนั้น เราจะทำการขาย โดยวางจุดหยุดขาดทุนที่ระดับ Resist(n1) และทำกำไรที่ระดับ Support(n).    มาพูดถึงค่าตัวแปรบางอย่างที่สำคัญกันดีกว่า:ตัวแปร TgtProfit จะกำหนดระดับของจุดหยุดขาดทุน/จุดทำกำไร ซึ่งสามารถมีค่าได้ตั้งแต่ 1 ถึง 5;ถ้า TgtProfit = 1 ระดับที่ทดสอบ (ซื้อ/ขาย) คือ Resist1/Support1, จุดหยุดขาดทุน (ซื้อ/ขาย) คือ Resist2/Support2, และจุดทำกำไร (ซื้อ/ขาย) คือ Support1/Resist1;ถ้า TgtProfit = 2 ระดับที่ทดสอบ (ซื้อ/ขาย) คือ Resist1/Support1, จุดหยุดขาดทุน (ซื้อ/ขาย) คือ Resist2/Support2, และจุดทำกำไร (ซื้อ/ขาย) คือ Support2/Resist2;ถ้า TgtProfit = 3 ระดับที่ทดสอบ (ซื้อ/ขาย) คือ Resist2/Support2, จุดหยุดขาดทุน (ซื้อ/ขาย) คือ Resist3/Support3, และจุดทำกำไร (ซื้อ/ขาย) คือ Support1/Resist1;ถ้า TgtProfit = 4 ระดับที่ทดสอบ (ซื้อ/ขาย) คือ Resist2/Support2, จุดหยุดขาดทุน (ซื้อ/ขาย) คือ Resist3/Support3, และจุดทำกำไร (ซื้อ/ขาย) คือ Support2/Resist2;ถ้า TgtProfit = 5 ระดับที่ทดสอบ (ซื้อ/ขาย) คือ Resist2/Support2, จุดหยุดขาดทุน (ซื้อ/ขาย) คือ Resist3/Support3, และจุดทำกำไร (ซื้อ/ขาย) คือ Support3/Resist3;ตัวแปร isTradeDay จะกำหนดว่าตำแหน่งที่เปิดอยู่จะถูกปิดหรือไม่ หาก isTradeDay = true ตำแหน่งที่เปิดจะถูกปิดโดยอัตโนมัติเมื่อสิ้นวัน แต่ถ้าไม่ ตำแหน่งจะยังอยู่ในตลาดจนกว่าจะถึงจุดหยุดขาดทุนหรือจุดทำกำไร;เมื่อกำหนดค่าของตัวแปร isTrace = True จะทำให้มีการบันทึกข้อมูลสำหรับการดีบักระบบการเทรดทุกอย่างในไฟล์.    ผลการทดสอบ: ไม่ทุกคู่ที่ใช้วิธีนี้จะส่งผลกำไรในระดับบวก แต่ส่วนใหญ่จะได้ผลดีเมื่อใช้ระบบ Trailing.

2006.01.25
gpfTCPivotStop: ระบบเทรดอัจฉริยะสำหรับ MetaTrader 4
MetaTrader4
gpfTCPivotStop: ระบบเทรดอัจฉริยะสำหรับ MetaTrader 4

ระบบ gpfTCPivotStop ถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์ระดับราคาตลอดทั้งวัน ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยอิงจาก Pivot Indicatorการเทรด:ระบบนี้เหมาะสำหรับการเทรดในกรอบเวลา 1 ชั่วโมงหลังจากผ่านไป 0 ชั่วโมงของวันปัจจุบัน เราจะทำการคำนวณระดับ Pivot, Resist1, Resist2, Resist3, Support1, Support2, Support3เมื่อปิดแท่งเทียน 1 ชั่วโมงเหนือระดับ Pivot จะทำการซื้อ โดยกำหนด Stoploss ที่ระดับ Support(n) และ Takeprofit ที่ระดับ Resist(n)สามารถใช้ Trailing Stop เพื่อย้าย Stoploss ไปยังจุด Breakeven ได้หากแท่งเทียนปิดต่ำกว่า Pivot จะทำการขาย โดยกำหนด Stoploss ที่ Resist(n) และ Takeprofit ที่ Support(n)คำอธิบายค่าพารามิเตอร์สำหรับการเข้าซื้อ:ตัวแปร TgtProfit จะกำหนดระดับ Stop และ Profit ควรมีค่าเป็น 1, 2 หรือ 3หาก TgtProfit = 1, Stoploss (Buy/Sell) = Resist1/Support1 และ Takeprofit (Buy/Sell) = Support1/Resist1หาก TgtProfit = 2, Stoploss (Buy/Sell) = Resist1/Support1 และ Takeprofit (Buy/Sell) = Support2/Resist2หาก TgtProfit = 3, Stoploss (Buy/Sell) = Resist2/Support2 และ Takeprofit (Buy/Sell) = Support3/Resist3ตัวแปร isTradeDay จะกำหนดว่าเมื่อเปิดสถานะแล้วจะต้องปิดเมื่อสิ้นสุดวัน หาก isTradeDay = true การเปิดสถานะจะถูกปิดโดยอัตโนมัติเมื่อสิ้นวัน มิฉะนั้นสถานะจะยังคงเปิดอยู่จนกว่าจะถึง Stop หรือ Profitเมื่อตั้งค่าตัวแปร isTrace = True ในไฟล์จะมีการบันทึกข้อมูลการดีบักทั้งหมดเพื่อช่วยในการตรวจสอบระบบผลการทดสอบ: ไม่ใช่ทุกคู่เงินที่ใช้วิธีนี้จะสามารถทำกำไรได้ในระดับที่คาดหวังในที่ปรึกษาต่อไปนี้จะมีการพัฒนาระบบเพื่อให้สามารถวิเคราะห์จากระดับเดียวกันได้ดียิ่งขึ้น

2006.01.19
เทรดในช่องราคา: วิธีการใช้ระบบเทรดใน MetaTrader 4
MetaTrader4
เทรดในช่องราคา: วิธีการใช้ระบบเทรดใน MetaTrader 4

   การเทรดในรูปแบบของระบบที่ใช้หลักการช่องราคา (Price Channel) เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับนักเทรด โดยสัญญาณสำหรับการเปิดตำแหน่งจะเกิดขึ้นที่บาร์ที่สองหลังจากที่ราคาสัมผัสขอบบนหรือล่างของช่องราคา หากราคาสัมผัสขอบบนจะทำการขาย (Sell) และหากสัมผัสขอบล่างจะทำการซื้อ (Buy) โดยจะเปิดตำแหน่งไว้จนกว่าจะถูกปิดโดยสัญญาณที่เกี่ยวข้องหรือหยุดขาดทุน (Stop Loss) ที่ตั้งไว้   ในการทดสอบบางสกุลเงินอาจไม่ให้ผลลัพธ์ที่ดีในบางช่วงเวลา (โดยใช้เพียงปัจจัยเดียวคือ % ของการขาดทุนสะสม) ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่ากฎในการเข้าหรือออกจากตลาดอาจต้องปรับปรุง หรือว่าไม่ควรใช้วิธีการเทรดในช่องราคาสำหรับสกุลเงินเหล่านี้ในช่วงเวลาเหล่านี้เลย

2005.12.03
Moving Average: ตัวช่วยสร้างสัญญาณซื้อขายใน MetaTrader 4
MetaTrader4
Moving Average: ตัวช่วยสร้างสัญญาณซื้อขายใน MetaTrader 4

    Moving Average หรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการสร้างสัญญาณซื้อขาย ซึ่งจะใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพียงตัวเดียวในการเปิดและปิดสถานะการซื้อขาย โดยจะทำการเปิดออร์เดอร์เมื่อค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ตัดราคาที่แท่งเทียนล่าสุด (แท่งที่มีดัชนี 1) และขนาดล็อตจะได้รับการปรับแต่งตามอัลกอริธึมพิเศษ.    EA (Expert Advisor) จะทำการวิเคราะห์การเปรียบเทียบระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และกราฟราคาตลาด การตรวจสอบจะถูกดำเนินการโดยฟังก์ชัน CheckForOpen() หากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ตัดแท่งเทียนในลักษณะที่สูงกว่า Open price แต่ต่ำกว่า Close price จะทำการเปิดสถานะ BUY และหากมันต่ำกว่า Open price แต่สูงกว่า Close price จะทำการเปิดสถานะ SELL.    การจัดการเงินที่ใช้ใน EA นี้มีความเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ โดยจะควบคุมปริมาณสถานะแต่ละอันตามผลลัพธ์ของธุรกรรมที่ผ่านมา ซึ่งอัลกอริธึมนี้ถูกสร้างขึ้นโดยฟังก์ชัน LotsOptimized() ขนาดล็อตพื้นฐานจะคำนวณจากความเสี่ยงสูงสุด:    lot=NormalizeDouble(AccountFreeMargin()*MaximumRisk/1000.0,1);    พารามิเตอร์ MaximumRisk แสดงถึงเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงพื้นฐานสำหรับแต่ละธุรกรรม โดยมักมีค่าอยู่ระหว่าง 0.01 (1%) ถึง 1 (100%) ยกตัวอย่างเช่น หาก AccountFreeMargin เท่ากับ $20,500 และกฎการจัดการเงินกำหนดให้ใช้ความเสี่ยง 2% ขนาดล็อตพื้นฐานจะเท่ากับ 20500 * 0.02 / 1000 = 0.41 เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องควบคุมความถูกต้องของขนาดล็อตและปรับให้เป็นไปตามค่าที่อนุญาต โดยทั่วไปขนาดล็อตที่เป็นเศษส่วนที่มีขั้นตอน 0.1 สามารถทำได้ การทำธุรกรรมที่มีปริมาณ 0.41 จะไม่ถูกดำเนินการ เพื่อให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน จะใช้ฟังก์ชัน NormalizeDouble() โดยมีความถูกต้องถึง 1 หลักหลังจุดทศนิยม ผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้ล็อตพื้นฐานเป็น 0.4 การคำนวณล็อตพื้นฐานจาก AccountFreeMargin จะช่วยเพิ่มปริมาณการซื้อขายขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการเทรด คือการเทรดด้วยการนำกำไรกลับมาลงทุนใหม่ นี่คือกลไกหลักที่มีการจัดการเงินอย่างเคร่งครัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเทรด.    DecreaseFactor เป็นตัวควบคุมปริมาณล็อตที่จะลดลงหลังจากการเทรดที่ขาดทุน ค่าปกติคือ 2, 3, 4, 5 หากธุรกรรมที่แล้วมีผลขาดทุน ปริมาณในธุรกรรมถัดไปจะลดลงตามอัตราส่วน DecreaseFactor เพื่อรอผ่านช่วงขาดทุน นี่คือปัจจัยหลักในอัลกอริธึมการจัดการเงิน แนวคิดคือถ้าการเทรดประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้น EA จะทำงานด้วยล็อตพื้นฐานเพื่อทำกำไรสูงสุด หลังจากการทำธุรกรรมที่ขาดทุนครั้งแรก EA จะ "ลดความเร็ว" จนกว่าจะมีการทำธุรกรรมที่ดีอีกครั้ง อัลกอริธึมนี้อนุญาตให้ปิดการ "ลดความเร็ว" โดยการตั้งค่า DecreaseFactor = 0 จำนวนธุรกรรมที่ขาดทุนติดต่อกันจะถูกคำนวณจากประวัติการซื้อขาย ขนาดล็อตพื้นฐานจะถูกคำนวณใหม่ตามนี้:    if(losses>1) lot=NormalizeDouble(lot-lot*losses/DecreaseFactor,1);    อัลกอริธึมนี้ช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการทำธุรกรรมที่ขาดทุนติดต่อกัน ขนาดล็อตจะถูกตรวจสอบอย่างเคร่งครัดตามขนาดล็อตขั้นต่ำที่อนุญาตเมื่อสิ้นสุดฟังก์ชัน เพราะการคำนวณก่อนหน้านี้อาจทำให้ล็อต=0:    if(lot<0.1) lot=0.1;    EA นี้เหมาะสำหรับการทำงานในกรอบเวลาแบบรายวัน และในโหมดการทดสอบ - สำหรับการทำที่ราคาปิด มันจะทำการซื้อขายเฉพาะในเวลาที่มีการเปิดแท่งใหม่ ดังนั้นโหมดการจำลองทุกแท่งจึงไม่จำเป็น.    ผลการทดสอบจะแสดงในรายงาน.รายงานการทดสอบกลยุทธ์Moving Averageสัญลักษณ์EURUSD (ยูโร เทียบ ดอลลาร์สหรัฐ)ช่วงเวลา1 ชั่วโมง (H1) 2003.01.08 00:00 - 2003.11.25 00:00แบบจำลองทุกแท่ง (อิงจากทุกกรอบเวลาอย่างน้อยที่สุดพร้อมการจัดเรียงแบบเสมือนของทุกแท่ง)พารามิเตอร์Lots=0.1; MaximumRisk=0.01; DecreaseFactor=1; MovingPeriod=16; MovingShift=11; แท่งในการทดสอบ19371การจำลองแท่ง656918คุณภาพการจำลอง25.00%เงินฝากเริ่มต้น10000.00กำไรสุทธิรวม1695.20กำไรรวม4293.20ขาดทุนรวม-2598.00ปัจจัยกำไร1.65การจ่ายเงินที่คาดหวัง10.80การลดลงโดยรวม40.35การลดลงสูงสุด (%)318.50 (3.0%)การซื้อขายทั้งหมด157ตำแหน่งสั้น ( % ที่ชนะ)73 (26.03%)ตำแหน่งยาว ( % ที่ชนะ)84 (32.14%)การซื้อขายที่ทำกำไร (% ของทั้งหมด)46 (29.30%)การซื้อขายที่ขาดทุน (% ของทั้งหมด)111 (70.70%)ใหญ่ที่สุดการซื้อขายที่ทำกำไร262.55การซื้อขายที่ขาดทุน-91.00เฉลี่ยการซื้อขายที่ทำกำไร93.33การซื้อขายที่ขาดทุน-23.41สูงสุดการชนะติดต่อกัน (กำไรในเงิน)2 (387.15)การขาดทุนติดต่อกัน (ขาดทุนในเงิน)7 (-287.25)สูงสุดกำไรติดต่อกัน (จำนวนการชนะ)387.15 (2)การขาดทุนติดต่อกัน (จำนวนการขาดทุน)-287.25 (7)เฉลี่ยการชนะติดต่อกัน1การขาดทุนติดต่อกัน3

2005.11.29
ระบบการเทรด MA2CCI สำหรับ MetaTrader 4
MetaTrader4
ระบบการเทรด MA2CCI สำหรับ MetaTrader 4

สวัสดีครับเพื่อนๆ นักเทรดทุกคน! วันนี้เราจะมาพูดถึงระบบการเทรดที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก นั่นก็คือ MA2CCI ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในบรรดานักเทรดที่ใช้ MetaTrader 4 นั่นเอง ระบบการเทรด MA2CCI คืออะไร? MA2CCI เป็นระบบการเทรดที่ใช้การวิเคราะห์จากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) สองค่า และดัชนี CCI (Commodity Channel Index) เพื่อช่วยในการตัดสินใจในการเปิดหรือปิดการเทรด วิธีการทำงานของ MA2CCI การใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองตัวเพื่อค้นหาทิศทางของแนวโน้ม การใช้ดัชนี CCI เพื่อวัดภาวะซื้อมากเกินไปหรือต่ำเกินไป เมื่อคุณรวมค่าทั้งสองนี้เข้าด้วยกัน คุณจะสามารถสร้างสัญญาณการเทรดที่มีความแม่นยำมากขึ้น ข้อดีของการใช้ MA2CCI ช่วยลดความเสี่ยงในการเทรด เพิ่มโอกาสในการทำกำไร ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีการใหม่ๆ ในการเทรด หรืออยากจะลองใช้ระบบที่น่าสนใจนี้ ผมแนะนำให้ลองใช้ MA2CCI ดูนะครับ! หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นักเทรดทุกคน

2005.11.17
ตัวอย่าง MACD สำหรับ MetaTrader 4: เครื่องมือที่นักเทรดไม่ควรพลาด
MetaTrader4
ตัวอย่าง MACD สำหรับ MetaTrader 4: เครื่องมือที่นักเทรดไม่ควรพลาด

สวัสดีครับเพื่อนนักเทรดทุกคน วันนี้เราจะมาพูดถึง MACD (Moving Average Convergence Divergence) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาในตลาด โดยเฉพาะใน MetaTrader 4 ที่หลายคนรู้จักกันดี ทำความรู้จักกับ MACD MACD เป็นเครื่องมือที่ถูกใช้ในการวัดความแรงของแนวโน้ม โดยจะมีการคำนวณจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองตัว คือ 12-period และ 26-period ซึ่งช่วยให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาได้อย่างชัดเจน เมื่อไหร่ที่ควรใช้ MACD เมื่อเราต้องการหาจุดกลับตัวของราคา เมื่อเราต้องการยืนยันแนวโน้มที่เกิดขึ้น เมื่อเราต้องการหาจุดเข้าซื้อหรือขาย สรุป MACD เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการเทรดในตลาด โดยเฉพาะใน MetaTrader 4 หากเพื่อน ๆ ใช้ MACD ร่วมกับเทคนิคอื่น ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้นครับ

2005.09.16
แรก ก่อนหน้า 116 117 118 119 120 121