หน้าแรก ตัวชี้วัดทางเทคนิค โพสต์

ทำความรู้จักกับดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) สำหรับการเทรด

ไฟล์แนบ
7898.zip (1.37 KB, ดาวน์โหลด 0 ครั้ง)

ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ติดตามราคา โดยมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100

เมื่อ Wilder ได้แนะนำดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์นี้ เขาแนะนำให้ใช้ RSI ระยะเวลา 14 วัน ซึ่งในปัจจุบัน RSI ระยะเวลา 9 วันและ 25 วันก็ได้รับความนิยมเช่นกัน

วิธีการวิเคราะห์ RSI ที่ได้รับความนิยมคือการมองหาความเบี่ยงเบน ซึ่งหมายถึง เมื่อราคาสินทรัพย์ทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI กลับไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ การเบี่ยงเบนนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อ RSI หันลงและลดต่ำกว่าจุดต่ำสุดล่าสุด จะถือว่ามีการเกิด "failure swing" ซึ่งถือเป็นการยืนยันถึงการกลับตัวที่กำลังจะเกิดขึ้น

วิธีการใช้ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ในการวิเคราะห์กราฟ:

  • จุดสูงสุดและจุดต่ำสุด
    ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์มักทำจุดสูงสุดเหนือ 70 และจุดต่ำสุดต่ำกว่า 30 โดยทั่วไปจะเกิดจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดเหล่านี้ก่อนที่กราฟราคาจะเคลื่อนไหว;

  • รูปแบบกราฟ
    RSI มักจะสร้างรูปแบบกราฟเช่น หัวและไหล่ หรือสามเหลี่ยม ที่อาจจะมองเห็นได้หรือไม่มองเห็นได้บนกราฟราคา;

  • Failure swing (การทะลุจุดสนับสนุนหรือแนวต้าน)
    นี่คือจุดที่ RSI ผ่านจุดสูงสุด (peak) ก่อนหน้า หรือหลุดต่ำกว่าจุดต่ำสุด (trough) ล่าสุด;

  • ระดับแนวรับและแนวต้าน
    ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์สามารถแสดงระดับแนวรับและแนวต้านได้ชัดเจนกว่าราคาเองบางครั้ง;

  • ความเบี่ยงเบน
    ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ความเบี่ยงเบนเกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุด (หรือต่ำสุด) ใหม่ที่ไม่ถูกยืนยันโดยการทำจุดสูงสุด (หรือต่ำสุด) ใหม่ใน RSI ราคามักจะแก้ไขและเคลื่อนตัวไปในทิศทางของ RSI;

การคำนวณ

RSI = 100-(100/(1+U/D))

โดยที่:

  • U — คือจำนวนเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงราคาบวก;
  • D — คือจำนวนเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงราคาเป็นลบ;

ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)

สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับ RSI เพิ่มเติมได้ที่ การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น (0)