ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ติดตามราคา โดยมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100
เมื่อ Wilder ได้แนะนำดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์นี้ เขาแนะนำให้ใช้ RSI ระยะเวลา 14 วัน ซึ่งในปัจจุบัน RSI ระยะเวลา 9 วันและ 25 วันก็ได้รับความนิยมเช่นกัน
วิธีการวิเคราะห์ RSI ที่ได้รับความนิยมคือการมองหาความเบี่ยงเบน ซึ่งหมายถึง เมื่อราคาสินทรัพย์ทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI กลับไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ การเบี่ยงเบนนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อ RSI หันลงและลดต่ำกว่าจุดต่ำสุดล่าสุด จะถือว่ามีการเกิด "failure swing" ซึ่งถือเป็นการยืนยันถึงการกลับตัวที่กำลังจะเกิดขึ้น
วิธีการใช้ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ในการวิเคราะห์กราฟ:
จุดสูงสุดและจุดต่ำสุด
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์มักทำจุดสูงสุดเหนือ 70 และจุดต่ำสุดต่ำกว่า 30 โดยทั่วไปจะเกิดจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดเหล่านี้ก่อนที่กราฟราคาจะเคลื่อนไหว;รูปแบบกราฟ
RSI มักจะสร้างรูปแบบกราฟเช่น หัวและไหล่ หรือสามเหลี่ยม ที่อาจจะมองเห็นได้หรือไม่มองเห็นได้บนกราฟราคา;Failure swing (การทะลุจุดสนับสนุนหรือแนวต้าน)
นี่คือจุดที่ RSI ผ่านจุดสูงสุด (peak) ก่อนหน้า หรือหลุดต่ำกว่าจุดต่ำสุด (trough) ล่าสุด;ระดับแนวรับและแนวต้าน
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์สามารถแสดงระดับแนวรับและแนวต้านได้ชัดเจนกว่าราคาเองบางครั้ง;ความเบี่ยงเบน
ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ความเบี่ยงเบนเกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุด (หรือต่ำสุด) ใหม่ที่ไม่ถูกยืนยันโดยการทำจุดสูงสุด (หรือต่ำสุด) ใหม่ใน RSI ราคามักจะแก้ไขและเคลื่อนตัวไปในทิศทางของ RSI;
การคำนวณ
RSI = 100-(100/(1+U/D))
โดยที่:
- U — คือจำนวนเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงราคาบวก;
- D — คือจำนวนเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงราคาเป็นลบ;

สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับ RSI เพิ่มเติมได้ที่ การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์
โพสต์ที่เกี่ยวข้อง
- เครื่องมือ Open Range Breakout สำหรับ MetaTrader 5
- เครื่องมือ Master Tools - อินดิเคเตอร์สำหรับ MetaTrader 4
- ดัชนีความแข็งแกร่งของสกุลเงิน (CSI) - เครื่องมือสำคัญสำหรับการเทรด MetaTrader 5
- สัญญาณข้ามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ครั้งเดียว - เครื่องมือช่วยเทรดใน MetaTrader 4
- การตั้งค่าแจ้งเตือนเมื่อมีแท่งใหม่ใน MetaTrader 4