ดัชนีการสนับสนุนตลาด (Market Facilitation Index) หรือ BW MFI เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ช่วยแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาในแต่ละจุด (tick) ได้อย่างชัดเจน
ค่าที่แท้จริงของตัวชี้วัดนี้อาจจะไม่ได้มีความหมายมากนัก แต่การเปลี่ยนแปลงของตัวชี้วัดนี้คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญจริงๆ ซึ่ง Bill Williams ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระหว่าง MFI และปริมาณการซื้อขาย:
- ถ้าดัชนีการสนับสนุนตลาดเพิ่มขึ้นและปริมาณเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่า:
a) จำนวนผู้เข้ามาตลาดเพิ่มขึ้น (ปริมาณเพิ่ม);
b) ผู้เข้ามาใหม่เปิดตำแหน่งตามทิศทางของแท่งราคา แสดงว่าการเคลื่อนไหวเริ่มต้นและเร่งความเร็วขึ้น - ถ้าดัชนีการสนับสนุนตลาดลดลงและปริมาณลดลง แปลว่าผู้เข้าร่วมตลาดไม่สนใจอีกต่อไป;
- ถ้าดัชนีการสนับสนุนตลาดเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณลดลง แสดงว่าตลาดอาจไม่ได้รับการสนับสนุนจากปริมาณการซื้อขายจากลูกค้า โดยการเปลี่ยนแปลงราคาอาจเกิดจากการเก็งกำไรของเทรดเดอร์ (โบรกเกอร์และดีลเลอร์) ในตลาด;
- ถ้าดัชนีการสนับสนุนตลาดลดลง แต่ปริมาณเพิ่มขึ้น แสดงว่ามีการต่อสู้ระหว่างกระทิงและหมี โดยมีปริมาณการขายและซื้อสูง แต่ราคากลับไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ ซึ่งหมายความว่ากำลังของสองฝ่าย (ผู้ซื้อ vs. ผู้ขาย) เท่ากัน ในที่สุดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะชนะการต่อสู้ โดยทั่วไปการแตกของแท่งราคานี้จะบอกได้ว่าจุดนี้จะเป็นการต่อเนื่องของแนวโน้มหรือยกเลิกแนวโน้ม Bill Williams เรียกแท่งราคานี้ว่า "การโค้งคำนับ"

ดัชนีการสนับสนุนตลาด
การคำนวณ:
เพื่อคำนวณดัชนีการสนับสนุนตลาด คุณต้องนำราคาต่ำสุดของแท่งราคามาหักกับราคาสูงสุดของแท่งราคา แล้วหารด้วยปริมาณการซื้อขาย
BW MFI = (HIGH - LOW) / VOLUME
โดยที่:
- HIGH - ราคาสูงสุดของแท่งราคาปัจจุบัน;
- LOW - ราคาต่ำสุดของแท่งราคาปัจจุบัน;
- VOLUME - ปริมาณการซื้อขายของแท่งราคาปัจจุบัน.
โพสต์ที่เกี่ยวข้อง
- เครื่องมือ Open Range Breakout สำหรับ MetaTrader 5
- Volume Profile + Range v6.0: เครื่องมือวิเคราะห์การซื้อขายใน MetaTrader 5
- ID Lite Info MA – ตัวช่วยวิเคราะห์ Moving Average สำหรับ MetaTrader 5
- การวิเคราะห์สเปกตรัมเดี่ยว: ตัวชี้วัดแนวโน้มสำหรับ MetaTrader 5
- iSpread: ตัวชี้วัดการกระจายสำหรับการเทรดคู่ใน MetaTrader 5