สวัสดีครับเพื่อนนักเทรดทุกคน! วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Relative Vigor Index (RVI) กันนะครับ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดว่าตอนนี้เป็นขาขึ้นหรือขาลง
หลักการของ RVI คือ ในช่วงตลาดขาขึ้น ราคาปิดมักจะสูงกว่าราคาเปิด ส่วนในตลาดขาลงจะตรงกันข้าม ดังนั้น RVI จะวัด "พลัง" หรือ "แรงขับเคลื่อน" ของการเคลื่อนไหวของราคา โดยอิงจากราคาปิดในการคำนวณ
เพื่อให้ RVI มีความแม่นยำมากขึ้น เราจะต้องปรับดัชนีให้เข้ากับช่วงการซื้อขายในแต่ละวัน โดยการนำการเปลี่ยนแปลงของราคาไปหารด้วยช่วงราคาสูงสุดและต่ำสุดในวันนั้น ๆ โดยใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบมีน้ำหนักสมมาตรเพื่อทำให้การคำนวณราบรื่นยิ่งขึ้น
สำหรับระยะเวลาที่แนะนำในการคำนวณ RVI คือ 10 วัน โดยเราจะต้องสร้างสัญญาณไลน์ ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบมีน้ำหนักสมมาตรของค่า RVI เพื่อใช้ในการตัดสินใจซื้อลงทุนหรือลงขาย
การคำนวณ
VALUE1 = ((CLOSE - OPEN) + 2 * (CLOSE (1)) – OPEN (1)) + 2*(CLOSE (2) – OPEN (2)) + (CLOSE (3) – OPEN (3))) / 6
VALUE2 = ((HIGH - LOW) + 2 * (HIGH (1) – LOW (1)) + 2*(HIGH (2)- LOW (2)) + (HIGH (3) – LOW (3))) / 6
NUM = SUM (VALUE1, N)
DENUM = SUM (VALUE2, N)
RVI = NUM / DENUM
RVISig = (RVI + 2 * RVI (1) + 2 * RVI (2) + RVI (3)) / 6
โดยมีความหมายของคำต่าง ๆ ดังนี้:
- OPEN — ราคาที่เปิด;
- HIGH — ราคาสูงสุด;
- LOW — ราคาต่ำสุด;
- CLOSE — ราคาปิด;
- VALUE1 — ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบมีน้ำหนักสมมาตรของความแตกต่างระหว่างราคาปิดและเปิด;
- VALUE2 — ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบมีน้ำหนักสมมาตรของความแตกต่างระหว่างราคาสูงสุดและต่ำสุด;
- NUM — ผลรวม N ของ VALUE1;
- DENUM — ผลรวม N ของ VALUE2;
- RVI — ค่าของดัชนี Relative Vigor Index ในแท่งปัจจุบัน;
- RVISig — ค่าของสัญญาณ RVI ในแท่งปัจจุบัน;
- N — ระยะเวลาของการทำให้ราบเรียบ.

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Relative Vigor Index ได้ที่ Technical analysis: Relative Vigor Index